“ไลฟ์กีฬาเถื่อน”ภัยเสี่ยงและการเปลี่ยนจากพนันสู่การเล่นเกมออนไลน์ที่ได้เงินรางวัล

ในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างโลกจริงและโลกดิจิทัลเลือนรางลงทุกที การเข้าถึงการพนันออนไลน์ก็ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป ตรงกันข้ามมันกลับแฝงตัวอยู่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทุกวันผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เครือข่ายการพนันเหล่านี้ไม่ได้อาศัยเพียงการโฆษณาผ่านเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังใช้กลยุทธ์การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊กและยูทูบ เพื่อดึงดูดผู้ชมจำนวนมหาศาลให้เข้ามาติดกับ

ปรากฏการณ์ที่น่ากังวลที่สุดคือความพยายามในการสร้างให้การพนันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใคร ๆ ก็สามารถ “ลอง” ได้ โดยลดทอนความร้ายแรงของปัญหาให้เหลือเพียงการเดิมพันด้วยเงินจำนวนน้อยนิดแค่ 5 บาท หรือ 10 บาท มันไม่เพียงแต่เป็นการล่อลวงให้เด็กและเยาวชนก้าวเข้าสู่วงจรการพนันอย่างง่ายดาย แต่ยังเป็นการบ่มเพาะทัศนคติที่ผิดเพี้ยนและกัดกร่อนสามัญสำนึกของสังคมอย่างเงียบ ๆ บทความนี้จะพาไปสำรวจกลยุทธ์เหล่านี้ และชี้ให้เห็นถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสะดวกสบายเพียงปลายนิ้วคลิก

“ใครยังลังเล ใครที่ยังถามว่า… เฮ้ย มันได้จริงป่าววะ… ไม่ต้องคิดเยอะ! ลองดูก่อนดิ ที่นี่เค้าใจถึง เริ่มต้นแค่ 1 บาท” นั่นคือตัวอย่างประโยคเชิญชวนของคนพากย์กีฬาวอลเลย์บอลในช่วงการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่ผ่านมา ขณะที่ช่องแชทก็เต็มไปด้วยข้อความสนทนาของผู้ชม และข้อความเชิญชวนเหยื่อเพื่อคลิกเข้าสู่กลุ่มไลน์

“แอดไลน์เข้าไปเลย กดเข้ากลุ่มไปปุ๊บนะ… ไม่ต้องกลัวเหงา มีน้อง ๆ แอดมินคอยดูแล 24 ชั่วโมง ติดตรงไหนทักถามได้เลย บริการโคตรไว ไม่ปล่อยให้รอนาน” นี่เป็นตัวอย่างของกลยุทธ์สำคัญของเพจเหล่านี้ที่ไม่ใช่แค่การโฆษณา แต่คือการ “สร้างความคุ้นเคย” ให้กับผู้ชม พวกเขาจะสลับการให้ข้อมูลการพนันกับการพูดคุยอย่างสนุกสนาน มีการกระเซ้าเย้าแหย่กับผู้ชมที่คอมเมนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายและลดเกราะป้องกันทางจิตใจเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกอยากเปิดใจให้แก่การพนันออนไลน์ และเมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงจุดสำคัญ เช่น ใกล้จะจบเซ็ตหรือใกล้หมดเวลา คนพากย์ก็จะเริ่มกระตุ้นให้ผู้ชมวางเดิมพันผลการแข่งขันเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นเทคนิคการใช้จิตวิทยาฝูงชนและความตื่นเต้นของเกมเป็นตัวเร่งให้ผู้ชมเข้าสู่การเป็นนักพนันหน้าใหม่ โดยใช้ความเป็นกันเองเป็นเกราะกำบัง ทำให้การพนันที่ผิดกฎหมายดูคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงหรือการเพิ่มอรรถรสของการชมกีฬาให้สนุกมากขึ้น บางเพจถึงขนาดแจกของที่ระลึกเพื่อจูงใจให้สมัครเป็นสมาชิกหรือร่วมลงพนันเป็นครั้งแรก

กลยุทธ์การหลบเลี่ยงการตรวจสอบของไลฟ์กีฬาเถื่อน

ในความเป็นจริง การกระทำลักษณะนี้เป็นทั้งการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ และฝ่าฝืนกฎชุมชน (Community Standards) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใช้เป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดสดอย่างร้ายแรง แต่กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้กลับมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบของระบบ AI และผู้ดูแลใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น การเบาหรือปิดเสียงพากย์ต้นฉบับ การจงใจใช้โลโก้ของกลุ่มพนันออนไลน์ปิดทับสัญลักษณ์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มุมจอ หรือแม้กระทั่งการซอยย่อยการไลฟ์ โดยถ่ายทอดเพียงทีละเซ็ต เมื่อจบแต่ละเซ็ตก็จะตัดการไลฟ์แล้วขึ้นไลฟ์ใหม่ทันทีเพื่อหนีการตรวจจับ หากเพจหรือช่องทางเหล่านั้นถูกรายงานจนโดนปิดกั้น พวกเขาก็จะเปิดหรือใช้เพจใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

แต่ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้น คือการย้ายฐานที่มั่นไปยังพื้นที่ที่ยากต่อการตรวจสอบ ด้วยการสร้าง “กลุ่มปิด” ในแอปพลิเคชันสนทนาอย่าง LINE เพื่อรวบรวมผู้ที่สนใจทั้งกีฬาและการพนันไว้ด้วยกัน ในกลุ่มเหล่านี้ เนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกแบ่งปันกันควบคู่ไปกับการชักชวนเล่นพนัน ซึ่งกลุ่มส่วนตัวลักษณะนี้ได้กลายเป็น “ช่องว่าง” ทางกฎหมายที่การตรวจสอบจากภายนอกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เว้นเสียแต่ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะต้องใช้ปฏิบัติการแฝงตัวเพื่อเข้าไปติดตามจับกุมเท่านั้น

“การเล่นเกมออนไลน์ที่ได้เงินรางวัล” กับดักทางทัศนคติที่สร้างนักพนันหน้าใหม่

สิ่งที่น่ากังวลไม่น้อยจากการทำให้การพนันออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนปกติในยุคโซเชียลมีเดีย คือการสร้างสภาวะแวดล้อมทางสังคมที่ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ซึ่งข้อมูลจากรองศาสตราจารย์ ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้สำรวจกลุ่มคนอายุ 15-25 ปี พบว่า การที่ผู้คนมีเวลาอยู่บนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้คนกลุ่มนี้ตกเป็นเป้าหมายของการโฆษณาพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนออนไลน์มากขึ้นและก่อให้เกิดนักพนันหน้าใหม่เพิ่มจำนวนมากเช่นกัน

สถิติที่น่าตกใจคือ ร้อยละ 44 ตอบว่า “เห็นแล้วอยากลอง”, ร้อยละ 26 ลองกดเข้าไปดู และ ร้อยละ 4 ตัดสินใจทดลองเล่น และที่สำคัญ คือ ร้อยละ 1 ได้ “แชร์ข้อความโฆษณา” นั้นต่อไปยังสาธารณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยขยายวงจรการโฆษณาให้กว้างขวางออกไปอีก เพราะการเข้าถึงที่ง่าย เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่คำถามที่ลึกไปกว่านั้นคือ ทำไมเยาวชนจึงตัดสินใจ “ลอง” ได้ง่ายดายขนาดนั้น?

งานวิจัยของรองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนันท์ ศิริเจริญ นักวิชาการจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และภาคีเครือข่าย สสส. ที่ศึกษากลุ่มนักศึกษา 400 คน ได้ให้คำตอบที่น่าตกใจ คือ “ทัศนคติ” ของเด็กและเยาวชนที่คุ้นชินกับเทคโนโลยี โดยไม่ได้คิดว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่คือ “การพนัน” แต่พวกเขามองว่ามันเป็นเพียง “การเล่นเกมออนไลน์ที่ได้เงินรางวัล”

จึงกล่าวได้ว่านักพนันหน้าใหม่เหล่านั้นโดนดึงดูดด้วยความสนุก ความตื่นเต้น และความท้าทาย มากกว่าจะตระหนักถึงความเสี่ยง หนักไปกว่านั้น คือ การที่ยังพบเห็นคนดังหรือผู้มีชื่อเสียงในสังคมออกมาเชิญชวน ประกอบกับการที่คนรอบตัวยังเล่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำให้การพนันออนไลน์ถูกลดทอนความร้ายแรงลง จนกลายเป็น “เรื่องปกติ” ที่ใคร ๆ ก็ทำกัน

ดังนั้นเมื่อเยาวชนก้าวข้ามเส้นจาก “ผู้เล่นเกม” ไปสู่ “ผู้ติดพนัน” ผลกระทบที่ตามมาก็รุนแรงและเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขาดเงินใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะนำเงินค่าขนมหรือเงินที่พ่อแม่ให้ไปเล่นพนันจนหมด เกิดความเครียดและปัญหาสุขภาพจิต และอาจสะสมจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้า การก่อหนี้สินที่อาจเริ่มจากการหยิบยืมเงินเพื่อน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาลูกโซ่อื่น ๆ รวมถึงความสัมพันธ์แตกแยก โดยเกิดการทะเลาะวิวาทกับเพื่อน และสร้างความแตกแยกภายในครอบครัว

จากพนันออนไลน์สู่ข้อมูลส่วนบุคคลในมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์

มีผู้ใช้สื่อสังคมรายหนึ่งโพสต์กระทู้ “พันทิป” (Pantip) โดยตั้งกระทู้ว่า “ระวังพวกพนันกีฬาผ่านช่องถ่ายสด YT โดยให้เงื่อนไขจูงใจ มันคือการหลอกเอาข้อมูลไปให้แก๊งค์ CT” โดยมีเนื้อหาสรุปว่า สถานการณ์การพนันออนไลน์ในปัจจุบันได้วิวัฒนาการไปสู่จุดที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดอย่างหนักของการพนันกีฬาระหว่างการถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มอย่าง YouTube

เครือข่ายเหล่านี้ใช้วิธีการดึงสัญญาณการแข่งขันมาถ่ายทอดซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเปิดรับเดิมพันแบบเรียลไทม์ ในอดีตนั้น การพนันลักษณะนี้อาจมุ่งเน้นไปที่กีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างฟุตบอลหรือมวย แต่ปัจจุบันมันได้ขยายตัวครอบคลุมแทบทุกชนิดกีฬาที่มีการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ต ไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันระดับท้องถิ่น เช่น ระดับ อบต. ขอเพียงแค่มีสัญญาณออนไลน์ พวกเขาก็พร้อมจะดึงมาที่ช่องของตนและเปิดราคาต่อรองทันที โดยที่เห็นได้ชัดเจนขณะนี้คือการพุ่งเป้าไปที่ “กีฬาวอลเลย์บอล” ในลีกต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะลีกอาชีพอย่าง Kovo League (เกาหลีใต้) และ V.League (ญี่ปุ่น) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมสูงขึ้น พวกเขานำทุกคู่มาถ่ายทอดสด เปิดราคา แม้จะไม่ใช่ทีมที่มีนักกีฬาไทยลงแข่งขันก็ตาม

ผู้ใช้รายนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า กลไกการล่อลวงนั้นแยบยลยิ่งขึ้น โดยพวกเขารับแทงกันเป็น “เซ็ต” และเปิดรับเดิมพันไปจนถึงช่วงท้ายเซ็ต แม้ว่าแต้มจะขาดและพอคาดเดาผู้ชนะได้แล้วก็ตาม ประกอบกับการตั้งอัตราต่อรองที่สูงจนน่าตกใจ เช่น แทง 100 บาท อาจได้ชนะสูงถึง 800-900 บาท ซึ่งจูงใจให้นักพนันยอมเสี่ยง หรือแม้กระทั่งสามารถแทงสองฝั่งเพื่อกินส่วนต่างราคาได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้รายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดอัตราต่อรองที่สูงจนล่อตาล่อใจนักพนันมือเก่าและมือใหม่ทั้งหมดนั้น อาจจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ก็ได้ นั่นคือกระบวนการสมัครที่แฝงไว้ด้วยการเก็บข้อมูลในการสมัครครั้งแรก ซึ่งผู้เล่นจะต้องส่ง “หน้าสมุดบัญชีเงินฝาก” โดยมิจฉาชีพจะอ้างว่าเพื่อ “ตรวจสอบชื่อบัญชีให้ตรงกัน ป้องกันการโอนผิด”

แต่กับดักที่แท้จริงจะปรากฏเมื่อผู้เล่น “แทงชนะ” และต้องการถอนเงิน ก่อนที่เงินจะถูกโอนเข้าบัญชี พวกเขาจะถูกหลอกล่อผู้เล่น “ให้ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพิ่มเติม” ด้วยความที่อยากได้เงินรางวัล ผู้ชนะส่วนใหญ่จึงยอมให้ข้อมูลแต่โดยดี สุดท้ายข้อมูลสำคัญเหล่านี้จะหลุดรั่วไปถึงมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (CT) เพื่อใช้ในการต้มตุ๋นต่อไป

ผลกระทบที่มากกว่าแค่เสียเงิน

นอกเหนือจากความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะรั่วไหลไปถึงมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังที่กล่าวไปแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ได้ออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ถึงความเสียหายที่รอบด้านจากการพนันออนไลน์

  1. ความเสียหายทางการเงิน ที่อาจทำให้ผู้เล่นสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมาก ก่อให้เกิดหนี้สิน และบีบคั้นให้นำไปสู่การกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ตามมา
  2. การทำลายความสัมพันธ์ ทั้งในระดับครอบครัวและเพื่อนฝูง เนื่องจากเวลาและเงินที่ควรใช้ในการดูแลครอบครัว กลับถูกทุ่มไปกับการพนัน
  3. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต การพนันสามารถก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าโดยตรง และเมื่อพ่ายแพ้ ความรู้สึกผิดหวังและเสียใจอาจรุนแรงจนทำให้สุขภาพจิตย่ำแย่
  4. ความเสี่ยงทางกฎหมายและอาชญากรรมซ้อน การสมัครสมาชิกในเว็บพนันผิดกฎหมายเหล่านี้ ยังเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลส่วนตัว (ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน) จะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดอื่น ๆ และยังมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโกง ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้

ในแง่ของบทลงโทษทางกฎหมาย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12(2) ระบุชัดเจนว่า ทั้งผู้เล่น ผู้ชักชวน และผู้จัดให้มีการพนัน จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แม้ว่าเครือข่ายเหล่านี้จะฝังรากลึกและยากต่อการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคง “ขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ขอให้ช่วยกันหยุดวงจรการพนันออนไลน์” โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ทางสายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

คำถามถึงผู้มีอำนาจรัฐ เมื่ออาชญากรรมเติบโตและกัดกร่อนสังคมไทย

จากข้อเท็จจริงทั้งหมดที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ปัญหาเล็กอีกต่อไป แต่คือ “ขบวนการอาชญากรรมออนไลน์” ที่ปฏิบัติการอย่างเป็นระบบและโจ่งแจ้ง โดยพวกเขาได้สร้าง “ระบบนิเวศแห่งความเสียหาย” ที่ในหลากหลายมิติ ทั้งใช้การละเมิดลิขสิทธิ์ (ไลฟ์เถื่อน) เป็นเหยื่อล่อ ใช้จิตวิทยาเพื่อสร้างนักพนันหน้าใหม่ และใช้การพนันเป็นเครื่องมือเก็บเกี่ยวข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อส่งต่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

คำถามที่ดังที่สุดในขณะนี้จึงไม่ใช่แค่ “เราจะเตือนภัยเยาวชนอย่างไร” แต่คือ “เหตุใด” อาชญากรรมเหล่านี้ จึงยังคงเติบโตและแพร่กระจายได้ราวกับไม่มีกฎหมายใดควบคุม การปราบปรามที่อ้างว่า “จริงจัง” นั้นเพียงพอแล้วหรือไม่ หรือเทคโนโลยีและกลยุทธ์ของมิจฉาชีพได้ก้าวล้ำหน้าการบังคับใช้กฎหมายไปไกลแล้วและที่สำคัญที่สุด… “ผู้มีอำนาจรัฐ” ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายกำกับดูแลสื่อ เช่น กสทช. ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม และฝ่ายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จะปล่อยให้ “ช่องว่าง” ทางกฎหมายและ “พื้นที่สีเทา” บนโลกออนไลน์เหล่านี้ ยังคงกัดกร่อนความมั่นคงของสังคมไทยไปถึงเมื่อใด

รายการอ้างอิง

https://www.thaihealth.or.th/?p=340034
https://www.facebook.com/share/p/1D6AaUSGhq
https://pantip.com/topic/43148606
Rate this post
แชร์บทความ
Scroll to Top