เมื่อเร็วๆ นี้ คลิปสั้นความยาว 9 วินาที ในชื่อ “ณ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง!!!” ได้กลายเป็นไวรัลบน Facebook Reels โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า “Piyada Wongdara” คลิปดังกล่าว (https://www.facebook.com/reel/1354023173044549) มีลักษณะเป็นการแอบถ่ายเหตุการณ์ที่ผู้สูงอายุหญิงรายหนึ่ง กำลังยืนตำหนิเจ้าหน้าที่พยาบาลด้วยเสียงอันดังและสีหน้าไม่พอใจ
ในคลิปมีบทสนทนาดังนี้
ผู้สูงอายุ: “ขอพูดหน่อยเถอะ พูดจาดี ๆ กับพวกฉันก็ได้ หลายรอบแล้วนะ นี่ก็คนเหมือนกันทั้งนั้นแหละ หัดดูจาดี ๆ (พูดจาดีๆ) กับคนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่ตะคอกและชักสีหน้าใส่แบบนี้”
พยาบาล: “ค่ะ ขอโทษค่ะ”
คลิปดังกล่าวไวรัลออกไปในวงกว้าง โดย ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 มียอดผู้ชมสูงถึง 8.7 แสนครั้ง กดไลค์ 1.4 พันครั้ง และมีการแชร์ต่อกว่า 625 ครั้ง
สิ่งที่น่าสนใจคือมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่า 1.3 พันข้อความ ที่ผู้คนส่วนใหญ่มีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์อย่างรุนแรง มีทั้งการวิจารณ์การทำงานบริการของพยาบาล และบางส่วนถึงขั้นแสดงความเห็นในเชิงยุยงให้ใช้ความรุนแรง เช่น “การทำงานบริการต้องเป็นคนที่พูดจาดีครับถ้าไม่งั้นก็ไม่สมควรจะเป็นงานบริการครับ” “ต้องตบให้มันเป็นข่าวเหมือนคนนั้น55555” “อบรมดีได้มากค่ะคุณป้า”
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางอารมณ์ที่หลากหลาย ได้มีผู้ใช้จำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าคลิปนี้ “อาจไม่ใช่เหตุการณ์จริง” แต่เป็นคลิปที่สร้างขึ้นโดย AI
จากการตรวจสอบโปรไฟล์ของผู้เผยแพร่ ซึ่งมีผู้ติดตาม 5.1 หมื่นคน พบว่า มีการเผยแพร่คลิปที่สร้างจาก AI ในลักษณะคล้ายกันนี้เป็นจำนวนมาก สำหรับคลิป “ป้าตำหนิพยาบาล” นี้ แม้จะสร้างได้อย่างแนบเนียน ทั้งอารมณ์ เสียงพูด และการขยับปาก (lip-sync) ที่ค่อนข้างสมจริง ประกอบกับการเป็นภาพระยะไกลที่ทำให้จับผิดการขยับปากได้ยาก แต่ก็มีจุดสังเกตที่ชัดเจนที่สุด ที่ยืนยันได้ว่าเป็น AI นั่นคือ “ตัวอักษรที่บิดเบี้ยว” (Distorted Text) ตามป้ายสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหลังพยาบาล (เหนือศีรษะ)
หากเป็นคลิปจริง ต่อให้วิดีโอไม่ชัดหรือเบลอ “โครงสร้าง” ของตัวอักษรไทย (เช่น ก, ข, ส, า) จะยังคงถูกต้อง แต่ในคลิป AI นี้ พบว่า ตัวอักษรบนป้ายกลับมีลักษณะ “เละ” (Messed up) หรือบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด มันดูคล้ายภาษาไทย แต่ไม่สามารถอ่านออกเป็นคำได้ และดูเหมือน “ลายเส้นที่พยายามเลียนแบบตัวหนังสือ” เท่านั้น
จุดนี้ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของโมเดล AI สร้างวิดีโอและรูปภาพในปัจจุบัน ที่มักจะมีปัญหาในการสร้างตัวอักษรหรือข้อความที่ถูกต้องชัดเจน จึงเป็นจุดสังเกตที่ง่ายที่สุดสำหรับสาธารณชนในการใช้ตรวจสอบคลิปในลักษณะนี้ ก่อนที่จะปักใจเชื่อหรือมีอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ที่ถูกสร้างขึ้น
ข้อพิจารณาเชิงกฎหมาย
สำหรับผู้เผยแพร่คลิปที่สร้างจาก AI ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในลักษณะนี้มีความสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 ที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อมูลเท็จ โดยเฉพาะหากคลิปดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อบุคคลอื่น หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ตามมาตรา 14 ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากในคลิปดังกล่าวปรากฎชื่อหน่วยงานหรือองค์กรด้วยก็อาจทำให้ผู้ผลิตและเผยแพร่โดนฟ้องอาญาคดีหมิ่นประมาทได้เช่นกัน



