AI กับสื่อท้องถิ่นชายแดนใต้เมื่อเทคโนโลยีท้าทายทักษะและจริยธรรมคนข่าว

ในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการ สื่อท้องถิ่นก็ไม่พลาดที่จะนำปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการผลิตข่าวสารและบริหารงานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็วทันเหตุการณ์ แต่การพึ่งพา AI ก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องพิจารณา สื่อท้องถิ่นจะสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร และควรระมัดระวังอะไรบ้างในยุคที่เครื่องมือเหล่านี้มีอิทธิพลมากขึ้น

จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ “Creative Storytelling Local Media for MIDL” ซึ่งจัดโดยคณะวิทยาการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ระหว่างวันที่ 25–27 เมษายน 2568 ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งยกระดับทักษะดิจิทัลของสื่อมวลชนท้องถิ่นในพื้นที่ชายแดนใต้ ไม่เพียงแค่เพื่อเสริมความสามารถในการผลิตเนื้อหาและเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในกระบวนการสื่อสารและการผลิตสื่อยุคใหม่

สำหรับมุมมองความคิดของสื่อท้องถิ่นที่มีต่อ AI นั้น ทำให้เห็นแนวคิดทั้งมุมมองในด้านที่ AI เป็นเครื่องมือที่ดีในการช่วยสร้างสื่อหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีความกังวลและข้อควรระวังหลายด้าน หรือแม้กระทั้งกังวลว่า AI จะเข้ามาทำหน้าที่แทนสื่อมวลชนในอนาคต

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวธัญวรรณ วิระโร นักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ สวท.จ.สงขลา ให้ความเห็นว่า  AI ถือเป็นผู้ช่วยที่ดีสำหรับสื่อมวลชนในยุคนี้ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องการข้อมูลรวดเร็ว กระชับ และนำไปต่อยอดได้ทันที เหมือนมีเลขาส่วนตัวที่ช่วยหาข้อมูลและเร่งการทำงานได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ข้อมูลจาก AI อาจถูกต้องแค่ประมาณ 60-70% เท่านั้น เรื่องรายละเอียดอื่น เช่น ชื่อคน ชื่อตำบล หรือข้อมูลเฉพาะ อาจผิดพลาดได้ ดังนั้นจำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำเสมอ  สำหรับเรื่องเสียงบรรยาย ตอนนี้หลายหน่วยงานเริ่มหันไปใช้เสียง AI แทนเสียงคนจริง ซึ่งมีผลกระทบกับงานด้านการพากย์ของเราอยู่บ้าง แม้เสียง AI จะฟังดูเนียน แต่ยังขาดเรื่องอารมณ์ ความใส่ใจ และน้ำเสียงที่มนุษย์ทำได้ดีกว่า เราจึงต้องพัฒนาคุณภาพงานของตัวเองให้ดีกว่า AI อยู่เสมอ แม้ว่าจะมีความกังวลว่า AI จะทำให้คนใช้สมองน้อยลง แต่หากมองว่า AI เป็นเลขา เราต้องเป็นนายที่สั่งการอย่างชาญฉลาด คิด วิเคราะห์ และควบคุมการใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นตัวเสริม ไม่ใช่มาทดแทนความสามารถของเรา

นางกษิมา โชติมาสะพันธ์ ผู้ประกอบการสื่อวิทยุธุรกิจ สถานีวิทยุมหานครหาดใหญ่ เรดิโอ FM 91.50 MH.  BKR NEWS  และเว็บไซต์มหานครหาดใหญ่นิวส์  ที่มาเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย มีมุมมองว่าAI มีส่วนช่วยงานด้านข่าวและสื่อได้มาก เช่น ช่วยประหยัดเวลา คิดประเด็นข่าว หรือช่วยเขียนหัวข้อที่คิดไม่ออก รวมถึงงานตัดต่อเสียงก็ง่ายขึ้น ใช้แอปพลิเคชันเดียวก็สามารถทำได้ทันที ไม่ต้องใช้หลายโปรแกรมเหมือนเดิม จึงทำให้งานสะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกด้านหนึ่ง AI ก็มีผลกระทบบ้าง เช่น ทำให้บางคนเสียรายได้ เพราะหน่วยงานต่าง ๆ เริ่มผลิตสื่อเองแทนการจ้างงานภายนอก

นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องข่าวปลอมเพราะบางคนแชร์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ สำหรับภาพที่สร้างด้วย AI ก็มีจุดสังเกต เช่น ความสวยหรือหล่อผิดธรรมชาติ หรือรายละเอียดผิดเพี้ยน ซึ่งคนที่มีประสบการณ์จะพอดูออก แต่คนทั่วไปอาจไม่รู้ทัน จึงอยากให้มีการส่งเสริมความทันสื่อ AI ให้มากขึ้นผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นเหยื่อของข้อมูลปลอมในยุคดิจิทัล

นายวรินทร แสงมาก สื่อมวลชนท้องถิ่นจากสำนักข่าว SINGORA TIMES สะท้อนความคิดเห็นว่าการนำดิจิทัลและ AI มาช่วยในงานของสื่อมวลชนได้ดีมาก เช่น ใช้เป็นแนวทางการเขียนข่าว สร้างเค้าโครงการเล่าเรื่อง เป็นต้น แต่เนื้อหาข่าวข้อเท็จจริงต่าง ๆ ยังจำเป็นต้องผ่านการกลั่นกรอจากผู้สื่อข่าว AI ยังช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดี แต่ถ้ามนุษย์พึ่งพา AI มากเกินไป อาจทำให้เนื้อหาดูแข็งกระด้างและขาดความลึกซึ้งในแง่มุมของความรู้สึกและความเป็นจริงจึงจำเป็นต้องใช้ AI อย่างมีสติ รู้เท่าทัน และควบคุมการใช้งานอย่างเหมาะสม พร้อมส่งเสริมให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่อง AI ได้เรียนรู้ เข้าใจ และแยกแยะการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูกเทคโนโลยีทำร้ายโดยไม่รู้ตัว

ด้าน นายเอกรินทร์ ศรีรุ่ง เพจข่าวยะลาทูเดย์  มองว่า “ตอนนี้ AI กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ผมมองเห็นอยู่ 2 ด้านที่สำคัญครับ ด้านแรก คือ ประโยชน์ ถ้าเราศึกษาและเข้าใจการใช้ AI อย่างถูกต้อง มันจะช่วยสร้างประโยชน์ได้เกือบทุกด้านในชีวิต ทั้งการทำงาน การสร้างรายได้ รวมถึงการพัฒนาตัวเอง โดยเฉพาะกับเด็กรุ่นใหม่ที่พร้อมเรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านี้ จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นครับ แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับคนรุ่นก่อน หรือคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี การเรียนรู้ AI อาจดูยุ่งยาก ซับซ้อน และกลายเป็นอุปสรรคได้เหมือนกันครับ ด้านที่สอง คือ อันตราย การเติบโตของ AI มันเร็วมาก เร็วจนบางครั้งมนุษย์ตามไม่ทัน และที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้า AI ตกไปอยู่ในมือคนที่ใช้ในทางที่ผิด เช่น การหลอกลวง การขโมยข้อมูล หรือการสร้างความเสียหายต่อสังคม มันจะส่งผลเสียอย่างมหาศาล ทั้งในด้านทรัพย์สิน ชีวิต และความปลอดภัยของผู้คน ผมมองว่า เรื่องของ AI มันอยู่ที่ตัวบุคคล ว่าเราจะเลือกใช้ AI เพื่อสร้างประโยชน์ หรือจะนำมันไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดโทษ”

จากการอบรมที่ผ่านมาหลายวัน ตนได้ข้อสรุปสำคัญว่า ในฐานะของสื่อมวลชน เรามีหน้าที่ต้องสร้างความเข้าใจให้สังคม ต้องทำให้คนทั่วไปตื่นตัว ไม่ใช่แค่สนใจใช้ AI เพื่อสร้างประโยชน์เท่านั้น แต่ต้องรู้จักป้องกันตัวเองจากภัยของ AI ด้วย เราควรมีการประชาสัมพันธ์ สร้างเนื้อหา หรือทำข่าวเพื่อให้คนรู้เท่าทัน AI มากขึ้น เพราะวันนี้ AI เข้าถึงผู้คนได้ง่าย ครอบคลุมทั้งครอบครัวผ่านระบบอินเทอร์เน็ต มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

อยากเน้นย้ำว่า การป้องกันตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ศึกษา AI ไม่ใช่แค่เพื่อเอาไปใช้งาน แต่ต้องรู้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของมันด้วย เพราะถ้าเราไม่ระวัง มันอาจก่อให้เกิดผลร้ายได้มากกว่าที่เราคิด” ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น จ.ยะลา กล่าว

ส่วนนางสาวโซเฟีย สะลามะ ผู้สื่อข่าว NBT ยะลา มองว่า“เราก็ไม่ควรนำข้อมูลจาก AI มาใช้โดยตรงทั้งหมด จำเป็นต้องตรวจสอบ วิเคราะห์ และเทียบเคียงข้อมูลจากหลายแหล่งก่อนเสมอ เพื่อความน่าเชื่อถือ อีกประเด็นที่ต้องระวังคือ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เราค่อย ๆ สูญเสียทักษะหรือองค์ความรู้ที่เรามีอยู่ เช่น ทักษะการเขียนข่าวหรือการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนั้น ควรใช้ AI เป็นตัวช่วย ไม่ใช่ตัวหลัก ต้องเริ่มจากองค์ความรู้ของตัวเองก่อน แล้วนำ AI มาเสริมและปรับให้เข้ากับสไตล์ของเรา เพื่อให้งานออกมาเป็นธรรมชาติและมีเอกลักษณ์

ในขณะที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในสื่อท้องถิ่น การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นความถูกต้องของข้อมูล ความเป็นมนุษย์ที่หายไป หรือการใช้ AI ในทางที่ผิด ดังนั้นการใช้ AI ในสื่อท้องถิ่นจึงควรเป็นไปอย่างมีสติ โดยต้องมีการควบคุมและตรวจสอบข้อมูลเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาทักษะการใช้งาน AI เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เสริมศักยภาพของมนุษย์ โดยไม่ให้มันมาแทนที่ความสามารถที่เรามี การตระหนักรู้และความรับผิดชอบในเรื่องนี้จะช่วยให้สื่อท้องถิ่นสามารถปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน


Rate this post
แชร์บทความ
Scroll to Top